วิธีทำโยเกิร์ตเองที่บ้านสำหรับสุขภาพที่ดี
การทำโยเกิร์ตเองที่บ้านไม่เพียงแต่สนุก ยังเป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพของเราอีกด้วย! โยเกิร์ตเต็มไปด้วยโปรตีนและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ดีขึ้น และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วันนี้เราจึงมีวิธีทำโยเกิร์ตง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ มาแชร์ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน
อุปกรณ์ที่จำเป็น
- หม้อหรือกระทะ (สำหรับอุ่นนม)
- ชามใส่ (สำหรับผสมส่วนผสม)
- ผ้าขาวบาง หรือ ฝาปิดที่มีรู (เพื่อให้โยเกิร์ตสามารถหายใจได้)
-
เทอร์โมมิเตอร์ (ถ้ามี เป็นตัวช่วยเช็คอุณหภูมิ)
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
-
นม 1 ลิตร (สามารถใช้ทั้งนมสดหรือนมข้าว)
-
โยเกิร์ต 2-3 ช้อนโต๊ะ (ใช้โยเกิร์ตธรรมชาติที่ไม่มีรสชาติหรือวัตถุกันเสีย)
-
น้ำตาล (ถ้าต้องการเพิ่มความหวาน)
ขั้นตอนการทำโยเกิร์ต
- อุ่นนม
-
นำหม้อใส่นมลงไป แล้วตั้งไฟอ่อนๆ จนถึงอุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส (อาจใช้เทอร์โมมิเตอร์ช่วย)
-
เมื่อได้อุณหภูมิแล้ว ปิดไฟ แล้วปล่อยให้นมเย็นลงจนถึงประมาณ 40-45 องศาเซลเซียส
- เติมโยเกิร์ต
-
เมื่ออุณหภูมิลดลงแล้ว ให้เติมโยเกิร์ตที่เราเตรียมไว้ลงไป
-
คนให้เข้ากันอย่างเบามือ จากนั้นจะได้เป็นส่วนผสมที่พร้อมสำหรับการหมัก
- หมักโยเกิร์ต
-
เทส่วนผสมลงในชามหรือภาชนะที่สะอาด
-
ปิดด้วยผ้าขาวบางหรือฝาที่มีรู เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าไป แต่ยังต้องมีอากาศถ่ายเท
-
ตั้งไว้ในที่อุ่น (อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส) ประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะได้ความข้นและรสชาติที่ต้องการ
- แช่เย็น
-
เมื่อทำได้แล้ว ให้นำโยเกิร์ตไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อทำให้โยเกิร์ตเย็นตัวและข้นดีขึ้น
- เสิร์ฟและจัดเก็บ
-
พร้อมเสิร์ฟ! สามารถเพิ่มผลไม้ ข้าวโอ๊ต หรือน้ำผึ้งตามชอบ
-
เก็บโยเกิร์ตที่เหลือในตู้เย็นเพื่อเก็บรักษาความสดใหม่
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโยเกิร์ต
-
ประโยชน์: โยเกิร์ตมีโปรไบโอติกที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และเต็มไปด้วยแคลเซียมที่ดีต่อกระดูก
-
การปรับรสชาติ: สามารถปรับรสชาติได้ตามชอบ เช่น ใส่ผลไม้สด น้ำเชื่อม หรือกราโนล่า
ลองทำโยเกิร์ตดูนะ! นอกจากจะได้สุขภาพดีแล้วยังได้สนุกกับการทำอาหารอีกด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสุขภาพและการทำอาหารได้ที่นี่เลย!